คำสร้อยก็เดินจักรยานล้อโตเข้ามารายงาน

“จะไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้นหรอกอุ๊ เพราะที่หนังสือพิมพ์ลงน่ะข่าวลือ” “อ้าว! จะลือได้ยังไง ในเมื่อคุณหมอก็เป็นคนบอกกับเราเองว่าจะให้ปีบ แต่งงานกับคุณดิสธรกลบข่าวลือ”
คราวนี้สมใจ เพราะกาซะลองกรีดเสียงแหลม
“อะไรนะ น้าฤษด์น่ะหรีอบอกอุ๊!” เหมือนใจจะขาดรอนๆ ระหว่างรอคำ ยีนยันจากปากของอีกฝาย
สฤษด์คณน่ะหรือที่เป็นคนบอกว่าหล่อนจะแต่งงาน บอกทำไม เขาทำอย่าง นั้นเพื่อประโยชน์อะไร จักรยานล้อโต
“ใช่! ไม่งั้นเราจะวิ่งมาหาปีบถึงนี่เหรอ ว้า ไม่เอาน่า จะปิดเพื่อนฝูงไปทำไม เราเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันนะปีบ ศกน่ะ แค่เราไปบอกข่าวเขายังดีใจจะตาย ถ้าเป็นตัวปีบไปบอกเองเขาจะดีใจแค่ไหน”
รู้สักเหมือนตัวเองชวนเซจวนจะเป็นลม ดีอยู่หน่อยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ กาซะลองจึงได้อาสัยที่เท้าแขนเป็นหลักยึดไว้ ศรานตายืนยันออกอย่างนี้ แสดง ว่าไม่ใช่ข่าวลือ ไม่ใช่การล้อเล่น แต่คำถามที่ยังคาใจ ผู้เป็นน้าทำอย่างนี้ทำไม
นั่งเลื่อนๆ ลอยๆ ใจคอไม่อยู่กับตัว จวบจนเมื่อศรานตาขอตัวกลับ หญิงสาวจึงฝืนลุกขึ้นยืนอย่างไร้เรี่ยวแรงเต็มที
เป็นความจริงอย่างที่คาด แหล่งข่าวรู้กั๊เพราะคนใกล้ตัว เจ็บหนึบที่หัวโจ จักรยาน fat bike
ยิ่งนานวันก็ยิงเหมือนอยู่คนเดียว1นโลก แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม หล่อนต้อง รู้เหตุผลของผู้เป็นน้าให้ได้
คุณพันธุรพีอดแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นร่างซูบผอมของผู้เป็นหลานมา ปรากฎตัวถึงที่บ้านหลังจากที่หายหน้าหายตาไปนับตั้งแต่เกิดเรื่องบาดหมางใน ครอบครัว
กาซะลองดูหม่นหมองไร้สง่ารา^ วูบหนึ่งที่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นยายเล็กอด เวทนาไม่ได้ เพราะอย่างไรเสีย ดอกปีบก็เคยเป็นหลานรัก เป็นเด็กดีที่เคยเอ็นดู แต่เมื่อนึกถึงผลการสอบสวนที่ยังค้างๆ คาๆ ใบหน้าของผู้เป็นเจ้าของบ้านก็เชิด ขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะเมื่อใบหน้าหมองคลาพนมมือไหว้อย่างนอบน้อม บอกลันๆ
“ปีบมาขอพบคุณน้าฤษด์”
หลายฉบับ จะมีกี่หัวกันที่รอด ไลลายิ้มขบขันก่อนบอก
“ฉบับเดียวจ้ะ ก็บอกแล้วไงว่าจิ้มลิ้มน่ะปลื้มปีบ พอมีข่าวมาเขาก็โทรมา ถามพี่ พอรู้ว่ามันไม่จริงเขาก็ตัดความรวบรัดไปเลย หนังสือพิมพ์อื่นก็คงไม่กล้า ลงหรอก ขืนลงก็ตกข่าว”
มีรอยยิ้มจางๆ เกิดขึ้นที่สีหน้าแต่ก็ยังไม่ล้ดีนัก ความที่รู้จักกันมานาน ทำให้ผู้สูงวัยกว่าพยายามผ่อนคลาย จักรยานล้อใหญ่
“เอาน่า อย่าไปสนใจเลย ข่าวก็คือข่าว พาพี่ไปทานข้าวก่อนดีกว่า อยาก กินขนมจีนนาเงี้ยวฝีมือปีบจะแย่แล้ว คราวก่อนที่ทำโชว์ในรายการพี่กินยังไม่ สะใจเลย” ผู้จัดสาวเอามือป้องปากหัวเราะคิก “ไม่กล้ากินมาก อายเขา”
สองสาวสองวัยเดินเคียงกันไปยังโรงครัว แต่เพียงเดินมาถึงบริเวณข่วง บ้าน คำสร้อยก็เดินเข้ามารายงาน
“คุณปีบคะ คุณศรานตามาหาค่ะ”
คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างงุนงง พยาบาลสาวสวยมาหาด้วยกิจ^ระ อันใดในเมื่อร้อยวันพันปีไม่เคยโผล่หน้ามาให้เห็น นอกจากยามควงคู่มากับ ร้อยตำรวจเอกคกร แต่เพียงนึกถึงชื่อนั้น พวงแก้มใสก็ร้อนฉ่า อกอุ่นที่อิงยัง อบอุ่นไม่จาง
“ปีบไปรับแขกเถอะ” ไลลายื่นมือไปแตะข้อศอกรุ่นน้องเบาๆ พลางยิ้มอ่อน
“เดี๋ยวมี้อนี้พี่ไปฝากท้องข้างนอกก่อนก็ได้ พอดีมีเพื่อนเก่าอยู่ในตัวเมือง จะได้ถือโอกาสไปเยี่ยมเขาหน่อย”
หญิงสาวยิ้มแหยรับคำ ยกเรื่องของไลลาให้เป็นธุระของป้าคำสร้อยช่วย อำนวยความสะดวกให้ ก่อนเดินตรงไปยังห้องรับแขก
เพียงย่างเท้าเข้าไปสายตาก็ปะทะกับร่างบอบบางในชุดชมพูหวานกระจ่าง นั่งพิงพนักเก้าอี้มือเรียวงามของฝ่ายนั้นพลิกดูอัลบั้มรูปที่วางอยู่บนตักอย่างพินิจ พิเคราะห์ ไม่ได้รู้ด้วยซาว่าบัดนี้เจ้าของบ้านมายืนอยู่เบี้องหน้า กาซะลองเพียงแต่ เอ่ยทักเบาๆ และศรานตาก็เงยหน้าขึ้นมองยิ้มกระจ่าง
“รูปศกตอนเด็กๆ ตล๊กตลกนะปีบ เสียดายอุ๊ไม่ได้เก็บรูปพวกนี้ไว้เลย ไม่งั้นคงได้เอามาล้อศก”
กาซะลองเพียงแต่ยิ้มเล็กน้อย หญิงสาวเดินไปทรุดตัวลงนั่งฝีงตรงข้าม

จักรยานล้อโต

Published
Categorized as Journal